นิกกี้แม็คคิบบิน (Nikki McKibbin) ผู้เข้ารอบสุดท้าย ‘American Idol’ ซีซั่น 1 เสียชีวิตด้วยวัย 42 ปี

นิกกี้แม็คคิบบิน (Nikki McKibbin) ผู้เข้ารอบสุดท้าย ‘American Idol’ ซีซั่น 1 เสียชีวิตด้วยวัย 42 ปี

นิกกี้แม็คคิบบิน เสียชีวิต – คนใกล้ชิดกับครอบครัวแม็คคิบบินบอกกับ TMZ ว่าการตายของนิกกี้เกิดจากภาวะสมองโป่งพอง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอได้รับการช่วยชีวิตจนกระทั่งหยุดความช่วยเหลือในเวลา 03.00 น. ของวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่จึงประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้ว

แม็คคิบบินปรากฏตัวในรายการ American Idol ในปี 2002 

ซึ่งเธอได้รับการยอมรับในการปรากฏตัวของวงร็อคคลาสสิกของเธอ ผลงานที่โด่งดังที่สุดของเธอคือการคัฟเวอร์เพลงของ Alannah Myles เพลง “Black Velvet” นอกจากนี้เธอยังแสดงเพลงของ Stevie Nicks, Alanis Morissette, Melissa Etheridge และ Janis Joplin

แม็คคิบบินได้อันดับที่ 3 ในการแข่งขันตามหลัง Justin Guarini และผู้ชนะอย่าง Kelly Clarkson ทริสตันแลงลีย์ลูกชายวัย 15 ปีของเธอยังได้ออดิชั่นสำหรับการแสดงในปี 2014 และไปที่ฮอลลีวูด แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก แม็คคิบบินได้ร่วมกับรายการ American Idol แล้วยังปรากฏตัวใน Fear Factor, Battle of the Network Reality Stars รวมไปถึงบันทึกการต่อสู้ของเธอกับการใช้สารเสพติดในสถานบำบัดคนดังและ Sober House

แม็คคิบบินแต่งงานกับ Craig Sadler ในปี 2550 และเธอถูกรายล้อมไปด้วยครอบครัวในช่วงเวลาที่เธอจากไป รายการ American Idol ยังออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการจากไปของ McKibbin อีกด้วย

เพราะเรา(ยัง)คู่กัน still 2gether จะกลับมาสานต่อปรากฎการณ์ซีรีส์วาย #คั่นกู ที่พาสารวัตรไทน์ดังระดับโลก เริ่มตอนแรกของ 5 ตอนพิเศษ วันที่ 14 สิงหาคมนี้ ว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของสารวัตร กับ ไทน์ หลังเป็นแฟนกัน ที่ทั้งกากกว่าเดิม วุ่นวายกว่าเดิม และรักมากกว่าเดิม แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ขอพาทุกคนชวนย้อนนกลับไปดื่มด่ำกับ 5 ฉากสุดประทับใจจากเพราะเราคู่กัน

เพราะเรายังคู่กัน – หลังจากที่ทาง gmmtv ออกมาประกาศข่าวดีผ่านให้แฟนๆ ซีรี่ส์ คั่นกู ได้ตื่นเต้น โดยการโพสต์คลิปประมวลฉากต่างๆในซีรีส์ พร้อมชื่อว่า “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน” 5 special episodes very soon และเขียนแคปชั่นว่า “ไม่ต้องรอถึง 10 ปี!!! พบกับ 5 ตอนพิเศษของ เพราะเรา(ยัง)คู่กัน เร็วๆนี้ในปี 2020 เจอกันแน่นอน…จิกหมอนรอไว้เลย!!! (Still) 2gether the Series 5 special episodes Coming soon!!! #ยังคั่นกู #STILL2GETHER #GMMTV #GMM25”

งานนี้ก็ทำเอาหลายคนตั้งตารอกันยกใหญ่ บางคนก็ถึงกลับไปดูใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ไม่พลาดทุกช็อตทุกตอนกันเลย เราก็เลยขอรวมฉากสุดประทับใจ มาให้ดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง ตามไปชมกันเลย อยู่แบบนี้หายเจ็บกว่าเยอะ ฉากที่สารวัตรอ้อนไทน์ แถมหยอดจนอีกคนไปไม่เป็น ถึงกับเขินกันเลยทีเดียว ใครเห็นก็บอกว่าสารวัตรอ้อนได้น่ารักมากๆ เลย

ไบร์ท – วิน ขอบคุณความสำเร็จเกินฝันที่ได้มา

รายการ THE SOUND OF HAPPINESS ฟัง x เล่า = ความสุข วาไรตี้ทอล์คและพอดแคสต์เรื่องราวสุขภาพจิตที่สนุกและเข้าใจง่าย สัปดาห์นี้จะพาไปพบกับเรื่องราวชีวิตของ 2 นักแสดงวัยรุ่นที่มาแรงที่สุดใน พ.ศ.นี้ ไบร์ท – วชิรวิชญ์ ชีวอารี และ วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร จาก “จีเอ็มเอ็มทีวี” ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ได้รับ การตอบรับจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศไทยและติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง มาติดตามฟังเรื่องราวชีวิตของพวกเขาว่ากว่าจะถึงวันนี้ เขาทั้งคู่ต้องเจอกับเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ หนักหนาสาหัสขนาดไหน ฝ่าฟันอะไรมาบ้างกว่าจะเป็นไอดอลขวัญใจแฟน ๆ ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคมนี้ เวลา 19.30 น. ที่ JOOX เท่านั้น

“ไบร์ท – วชิรวิชญ์”  เผยว่า  “ผมเข้าวงการด้วยการเป็นพิธีกรรายการวัยรุ่นรายการหนึ่ง ตอนนั้นทำเพราะรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีและทำให้เรามีรายได้ ตอนนั้นเหมือนเรายังเด็กยังไม่ค่อยเข้าใจการทำงานสักเท่าไหร่ ถือเป็นช่วงเรียนรู้งานจริง ๆ  หลายครั้งไม่อยากทำงานเพราะรู้สึกไม่มีความสุข พอทำไปเรื่อย ๆ ก็พยายามปรับความคิดเปลี่ยนมุมมองตัวเอง หาความสุขให้กับสิ่งที่ทำ จากนั้นเริ่มรู้สึกว่าโอเคและมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น จนมาถึงตอนนี้ที่มีคนรู้จักผมเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ๆ เลย

สิ่งที่เข้ามาพร้อม ๆ กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือฟีดแบคทั้งบวกและลบ มีทั้งคำชมและคำติ ปฎิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้งยิ่งพอได้อ่าน ได้รับรู้เยอะ ๆ ทำให้ผมเครียดมากเลยครับ  เครียดจนถึงจุดหนึ่งก็เลยตัดสินใจลองวางความรู้สึกนั้นลง แล้วดึงตัวเองออกมา มาอยู่กับคนรอบข้างที่รักเรา ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว, เพื่อน, เพื่อนร่วมงาน, พี่ ๆ ที่บริษัท ฯลฯ  เขาเคยรักเรายังไงก็ยังรักเราอยู่และเข้าใจเราเสมอ เลยทำให้รู้สึกดีขึ้นและผ่านจุดนั้นมาได้  ผมบอกตัวเองว่าคนเราผิดพลาดได้ แต่เราต้องให้อภัยตัวเองให้เป็น เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราทำมันผิดยังไงและไม่ทำซ้ำอีก แค่นี้ก็จะทำให้เราเก่งขึ้นทุกวัน อะไรผิดก็อุด ทำไปเรื่อย ๆ เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผมโชคดีที่มีครอบครัว คนรอบข้าง และแฟน ๆ ที่คอยสนับสนุนให้กำลังใจ ผมรับรู้ได้มาตลอดและต้องขอบคุณพวกเขามากจริง ๆ ครับ”

“วิน – เมธวิน” เผยว่า  “ตั้งแต่เด็กวินจะเป็นคนที่อยู่ในกรอบของที่บ้านมาตลอด มันเหมือนเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่วางให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ทั้งเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิต มีบ้างที่สิ่งที่เราอยากทำต่างจากคำแนะนำของคุณพ่อคุณแม่ อย่างตอนเด็ก ๆ วินอยากเป็นสถาปนิก แต่ที่บ้านอยากให้เรียนเศรษฐศาสตร์ เพราะอยากให้สานต่อธุรกิจของครอบครัว สุดท้ายผมก็เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์นะครับ มีความรู้สึกขัดแย้งในใจอยู่บ้าง แต่ด้วยเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาทำให้เราเห็นภาพจริง ๆ ครอบครัวไม่เคยบังคับแต่เราคุยกันด้วยเหตุและผลตลอด ซึ่งทุกครั้งก็ทำให้ผมเข้าใจและยอมรับ  วินเข้าวงการมาผลงานแรก คือ ซีรีส์เพราะเราคู่กัน ได้มาเจอพี่ไบร์ท เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก วินได้ซึมซับตรงนี้มาจากเขา และคิดว่าเราก็ต้องตั้งใจและทำให้ดีที่สุด ยอมรับว่าชีวิตพลิกไปเลย จากที่ไม่มีใครรู้จักตอนนี้คนรู้จักเยอะขึ้นมาก ๆ ทำให้การที่จะทำอะไรพูดอะไร ต้องผ่านกระบวนการความคิดมากขึ้น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป