ส.ท.กร่าง บุกถีบยอดอก เพื่อนพนักงานขับรถ กลางเทศบาลลำภูรา โมโหไม่ให้กุญแจรถ ด้านผู้ถูกกระทำเดินหน้าร้องเรียนหลังเรื่องเงียบ เหตุการณ์ ส.ท.ป้ายแดงกร่าง ทำร้ายร่างกาย พนักงานขับรถเทศบาลตำบลลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค.65 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก เดลินิวส์ นายสุด ลิ่มอรุณ หรือ อ๊อด อายุ 55 ปี พนักงานขับรถเทศบาลตำบลลำภูรา เล่าถึงเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า
ระหว่างที่เข้าเวรกะกลางคืนอยู่ภายในอาคารสำนักงานเทศบาลฯ
ตนเองได้ปฏิเสธที่จะให้กุญแจรถบรรทุก 6 ล้อของเทศบาลกับเพื่อนของ ส.ท.เอ (นามสมมติ) เพื่อจะนำไปบรรทุกโต๊ะ เก้าอี้ของเทศบาลฯ จัดงานเลี้ยงปลดเกษียณให้กับนายตำรวจรายหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนสนิทกับ ส.ท.เอ
แต่ นายสุด พนักงานขับรถของเทศบาลฯ ไม่ให้กุญแจรถ เพราะไม่มีใบขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชามายื่นยืนยัน ต่อมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ส.ท.เอ เดินทางมาที่สำนักงานหลังทราบเรื่อง และได้เข้าาไปด่าทอนายสุดถึงห้องเวร มีการกระชากคอเสื้อ ก่อนจะทำร้ายร่างกายด้วยการถีบยอดอก แล้วขับรถกลับไป ขณะที่พนักงานผู้โชคร้ายก็ได้ไปแจ้งความ ที่ สภ.ห้วยยอด เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า
ทำให้ล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค.65) นายสุดและลูกสาว ได้เดินทางเข้าพบ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง เพื่อขอความเป็นธรรม โดยนายสุด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็หวาดกลัวความปลอดภัยอย่างมาก เพราะยังต้องไปทำงานทุกวัน หลังจากเกิดเหตุมีการมาข่มขู่ให้ตนลาออกจากงาน และสั่งห้ามไม่ให้เป็นข่าว ห้ามไม่ให้ให้ข่าวกับสื่อมวลชน หากเป็นข่าวจะไล่ออก หากไม่เป็นข่าวก็จะให้ทำงานอยู่ต่อ ทำให้ตนหวาดกลัวว่าจะถูกไล่ออกจากงานด้วย เนื่องจากตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลภรรยา และลูกอีก 3 ชีวิต ซึ่งตนทำงานในตำแหน่งนี้มากว่า 11 ปีแล้ว ขณะนี้ได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 9,000 บาท ค่าครองชีพอีก 1,000 บาท รวม 10,000 บาท ถ้าหากไม่ได้ทำงานก็จะขาดรายได้ และครอบครัวต้องเดือดร้อน อีกทั้งจะต้องส่งลูกๆเรียนหนังสือ
ทั้งนี้ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าฯตรัง กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่อง ซึ่งมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดชัดเจนว่า สท.รายดังกล่าวกระทำจริง และหลังจากนี้จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย คิดว่าผู้เสียหายมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หากใครทำผิดก็ว่าไปตามความจริง และจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ระบุว่าหลังจากที่ผู้เสียหายไปแจ้งความก็ได้มีการลงเลขคดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างเรียกตัว นายทวีศักดิ์ หนูเกิด หรือ ส.ท.แมว มาให้ปากคำ และดำเนินการตามขบวนกฎหมายต่อไป
วิจารณ์ยับ คลิปสาวสอง โดนครอบครัวบังคับตัดผม สั่งเลิกเป็นกะเทย
สาวประเภทสอง ถูกน้าชายลากตัว บังคับตัดผม สั่งให้เลิกเป็น กะเทย แฟนหนุ่มโพสต์ภาพเศร้าที่ร้านตัดผม ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ แห่แชร์คลิป สาวประเภทสอง ถูกคนในครอบครัวทำร้าย ลากออกจากบ้านบังคับให้ไปตัดผม โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ในวันนี้ (13 ม.ค.65) ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียง สาวข้ามเพศ ผู้ถูกทำร้าย นั่งร้องห่มร้องไห้อยู่กับพื้น พยายามร้องและบอกให้ชายเสื้อขาวซึ่งเป็นน้าชาย หยุดการกระทำ มีการคว้าราวเหล็กไว้ ขณะที่น้าชายพยายามคว้าแขนและมือของผู้ถูกทำร้าย เพื่อจะลากตัวออกมาจากบ้าน
แม้สาวข้าวเพศคนดังกล่าวจะพยายามบอกว่าเจ็บ แต่อีกฝ่ายก็สวนกลับมาทันทีว่าา จะไปหรือไม่ไป ก่อนญาติอีกคนที่เป็นผู้หญิงจะส่งเสียงสนับสนุนให้พาผู้ถูกทำร้ายไปตัดผม ส่วนผู้ที่ถ่ายคลิป ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเหยื่อก็กล่าวเรียกร้องให้ผู้กระทำหยุดใช้ความรุนแรง และตนจะดูแลแฟนของตนเอง ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวโพสต์รูปที่แฟนของตนนั่งอยู่ในร้านตัดผม และบรรยายรูปว่า “แฟนผมโดนตัดผมแล้วนะครับ ผมขอประนามครอบครัวนี้แบบไม่แคร์อะไรอีกต่อไป”
เมื่อคลิปลากตัวสาวประเภทสองไปตัดผมนี้เผยแพร่ออกไป ปรากฏ บนโลกออนไลน์ ต่างพากันออกมาเรียกร้องประเด็น การใช้ความรุนแรงต่อสาวข้ามเพศคนดังกล่าว อีกทั้งยังทำให้คำว่า LGBTQ กลายเป็นหนึ่งในคำที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในไทยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีการติดแฮชแท็ก #มช #เชียงใหม่ และ #ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน
“เราคาดว่าหากคนร่วมมือกัน น่าจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นภายในปีนี้ ไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ ถ้าสังเกต องค์การอนามัยโลกและหลายประเทศก็พูดไม่ตรงกัน เพราะองค์การอนามัยโลกจะดูภาพรวมใหญ่ๆ แม้แต่อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ก็เริ่มจะคิดว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น เราต้องอยู่ร่วมกับโควิด เสียงจะออกไปทำนองนี้” นพ.โอภาส กล่าว
นอกจากนี้ นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเราเอง ค่อนข้างนำหน้าองค์การอนามัยโลกและประเทศอื่นๆ ในหลายเรื่อง ตั้งแต่วัคซีนสูตรไขว้ การเปิดประเทศ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) และครั้งนี้ก็เรื่องโรคประจำถิ่น เราก็ค่อนข้างพูดเร็วกว่าหลายประเทศ ดังนั้น ไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะเราดูในบริบทของประเทศ และมองไปข้างหน้า
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ แคทเธอรีน สมอลวูด เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่าหากเทียบกับนิยามของโรคประจำถิ่นแล้ว สถานการณ์ในขณะนี้ไม่ใกล้เคียงเลย พร้อมอธิบายว่า โรคประจำถิ่นนั้น สถานการณ์ต้องคงที่และสามารถคาดการณ์ได้ และในขณะนี้การแพร่ระบาดของโควิด ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงมาก และไวรัสก็ยังกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ขึ้นตามมา
Credit : christianlouboutinboots.net clubtrigone.net communarium.net daikokunet.com deadoramerican.com diygiantrobots.net donovanandwatkins.com dribne.net edpillsonline.net enigmaimagedesign.com